เจ้าลอย
ผู้แต่ง ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
เมื่อใครถามลอยว่า มันเกิดที่ไหน มันก็ตอบว่ามันเกิดที่เมืองสุพรรณ แต่ความจริงนั้นเจ้าลอยมันเกิดที่ไหนไม่มีใครทราบ แต่ชื่อของมันก็บอกที่ประวัติที่มาของตัวมันเองอยู่แล้ว
วันหนึ่งเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน เวลาเช้าแต่ยังไม่สว่าง ยายพริ้มบ้านแกอยู่ริมคลองได้ลุกขึ้นตั้งหม้อหุงข้าวตามปกติวิสัยของชาวบ้าน และขนาดนั้นเองแกได้ยินเสียงเด็กร้อง แกรู้สึกงงเป็นอย่างมาก เพราะบ้านแกห่างจากชาวบ้านในระแวกนั้นไกลพอสมควร และแกอยู่ด้วยกันสองคนกับเจ้าเถิกหลานชายอายุ 9 ขวบของแก แกฟังเสียงร้องอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ จากนั้นแกหยิบตะเกียงไปยังที่ท่าน้ำ ยายพริ้มแลเห็นหม้อใบหนึ่งลอยมาติดอยู่ที่บันไดท่าน้ำ ในหม้อนั้นมีเด็กผู้ชายอายุเกิดใหม่ไม่ถึง 10 วัน ร้องไห้หมือนกับว่าร้องขอความช่วยเหลือ ยายพริ้มรีบอุ้มเด็กน้อยนั้นมาซบอกทันที ยายพริ้มให้ความรักความเมตตาแก่เด็กน้อยที่ลอยมาติดที่บันได โดยไม่รู้ว่าได้เอางูเห่าที่มีพิษร้ายมาเลี้ยงไว้ เมื่อมันได้รับความอบอุ่นจนฟื้นชีวิตขึ้นมาก็จะกัดร่างที่ให้ความอบอุ่นแก่มัน แต่ถึงอย่างไรยายพริ้มก็จะเลี้ยงเจ้าลอยต่อไป เพราะความรักของคนเรานั้นก็อาจจะทำร้ายตัวเองได้
ยายพริ้มขายผักและผลไม้และของจุกจิกอีกหลายอย่าง วันหนึ่งๆยายพริ้มก็จะพายเรือออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อขายของ เมื่อเจ้าลอยยังเป็นเด็กหัดเดิน ยายพริ้มก็ให้เจ้าเถิกหลายชายดูแลมันที่บ้าน แต่พอเจ้าลอยอายุได้ 8 ขวบ ก็เอาไปขายของด้วยทุกวัน ระหว่างนั้นยายพริ้มก็ทำมาค้าขึ้นทุกวันจนมีฐานะดี ยายพริ้มไม่เคยปิดบังประวัติเจ้าลอย กลับเล่าให้ทุกคนฟังรวมทั้งเจ้าลอยเอง อาจเป็นเหตุนี้ที่เจ้าลอยจึงไม่รู้สึกผูกพันต่อใครจริงใจตั้งแต่เด็ก
วันหนึ่งเจ้าลอยได้ร่วมเกี่ยวข้าวกับชาวบ้านในระแวกนั้น แต่เจ้าลอยก็แอบไปหลับตามประสาเด็กใต้ต้นไม้ใหญ่ ขณะนั้นเองมันได้ยินเสียงคุยกัน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น จึงได้แอบไปดู ภาพที่มันเห็นก็คือเจ้าเถิกกับหญิงสาวได้กระทำการอาณัติของธรรมชาติ ในสิ่งที่เจ้าลอยไม่เคยเห็นมาก่อน แต่นั้นมาเจ้าลอยก็ถามเจ้าเถิกอยู่บ่อยๆว่า ผู้หญิงและผู้ชายเกิดมาทำไม และเพื่ออะไร อาการและร่างกายของคนที่เป็นหนุ่มสาวแล้วเป็นอย่างไร เจ้าเถิกก็มิได้ปิดบังบอกให้รู้และแสดงให้ดูจนสิ้น แต่มีอย่างหนึ่งที่มันไม่ได้บอกคือ ความรักของหญิงกับชายนั้น เป็นความรักที่เสียสละและเห็นอกเห็นใจต่อกัน
พอเจ้าลอยแตกเนื้อหนุ่ม ก็เลิกลงเรือช่วยยายขายของไปเที่ยวตลาดอยู่ทุกวัน จนเป็นที่รู้จักของคนระแวกนั้น และคนที่คุ้นเคยกับเจ้าลอยตั้งแต่เด็กคือ เจ๊ทองคำ เจ้าลอยก็ฝากเนื้อฝากตัวกับเจ๊ทองคำทุกครั้งทีเจ้าลอยมาเที่ยวตลาด มันก็นั่งที่ร้านเป็นเวลานานๆ จนเพื่อนฝูงรุ่นเดียวกันพากันล้อเลียนว่าไปติดนางสวน ซึ่งเป็นลูกสาวของเจ๊ทองคำ
วันหนึ่งตอนกลางวันฝนตกหนักที่ตลาดเงียบลอยนั่งหน้าร้านเช่นเคย แต่วันนั้นนางสวนไม่อยู่เจ๊บอกให้ลอยนั่งเฝ้าร้าน เจ๊จะไปนอน เพราะเจ๊ปวดหลัง เจ้าลอยก็อาสาช่วยนวดให้ เจ้าลอยก็นวดอย่างเบาๆ พอผ่านไปครู่หนึ่ง มันเริ่มกำขา กำเนื้อที่อยู่ตรงหน้ามันแรงขึ้น และได้ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำขึ้น เจ้าลอยทำอย่างนี้เป็นเวลาเกือบ 2 ปี และวันหนึ่งมันก็มาที่ร้านเจ๊เป็นปกติ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเจ๊ทองคำได้ตายแล้ว เนื่องจากนางได้กินยาทำแท้งเป็นเวลานานจึงทำให้เสียเลือดมาก และเห็นนางสวนนั่งอยู่ข้างๆ มันรีบวิ่งไปปิดประตูร้านแล้วมาที่ตัวนางสวน แล้วข่มขืนนางสวน แล้วมันก็กลับบ้านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รุ่งเช้าชาวบ้านแปลกใจที่เจ๊ทองคำไม่เปิดร้านจึงได้พังประตูเข้าไป และได้เห็นภาพที่น่าอนาถ คือนางสวนผูกคอตายและเจ๊ทองคำนอนตายอยู่ในห้อง ชาวบ้านที่มามุงดู มีเจ้าลอยรวมอยู่ด้วย
เมื่ออายุครบเกณฑ์ มันได้หายหน้าไปเป็นทหารเกือบ 2 ปี พอกลับมา มันก็ได้สมัครเป็นลูกน้องของเสือเปรื่อง ซึ่งขนาดนั้นกำลังรวบรวมกำลังคนเพื่อออกปล้น และบ้านหนึ่งในนั้นที่มันออกปล้นคือ บ้านของผู้ที่ให้การเลี้ยงดูและให้ความรู้แก่มันคือยายพริ้มและเจ้าเถิก
วันหนึ่งเสือเปรื่องเข้าปล้นบ้านกำนัน ในขณะที่ปล้นเสร็จและพวกโจรกำลังถอนกำลัง เจ้าลอยได้ยิงปืนใส่เสือเปรื่องซึ่งเป็นหัวหน้าที่กลางอก โดยไม่มีใครรู้ จากนั้นเสือเปรื่องก็ตาย เจ้าลอยออกปล้นโดยใช้ชื่อเสือเปรื่อง แต่คราวนี้ปล้นถี่และหนักกว่าเดิม แถมยังฆ่าเจ้าของทรัพย์อีก ซึ่งเมื่อก่อนเสือเปรื่องไม่เคยทำ
ลอยนั่งครึ่งหลับครึ่งตื่นในเรือที่แล่นจากบ้านแพนมุ่งหน้าไปกรุงเทพฯมันเป็นเสืออย่างเต็มตัวแล้ว ไปกรุงเทพฯคราวนี้มันไปซื้ออาวุธปืนและอาวุธต่างๆที่ใช้ปล้นคราวต่อไป
เสียงพายุฝนกระหน่ำลงมา ช่วยกล่อมให้มันเคลิบเคลิ้ม มันไม่รู้ว่าฟ้าดินให้โอกาสมันมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยบันดาลให้ยายพริ้มมาช่วยชีวิตมันมิให้ลอยตามน้ำไป แต่มันได้ทำอย่างไรกับโอกาสและชีวิตที่มันได้มา เรือยนต์ลำนั้นแล่นมาถึงคุ้งสำเภาจะเข้าหัวคุ้ง ' ชีวิตกูเป็นกำไร ' ลอยมันนึกในใจพอดีกับเรือคว่ำจมลง ชีวิตเจ้าลอยได้ไหลไปตามกระแสน้ำสายเดียวกับที่ไหลผ่านหน้าบ้านยายพริ้มเมื่อ 30 ปีมาแล้ว
ที่มาwww.kmutt.ac.th
ขอบคุณค่ะ
ตอบลบตัดมาสั้นมาก
ตอบลบเคยอ่านวรรณกรรมเล่มนี้เมื่อหลายสิบปีก่อน ดีใจที่ได้กลับมาอ่านอีกครั้ง
ตอบลบไครก็ได้ช่วยสรุปความเป็นมาให้หน่อย
ตอบลบอยากเห็นเต็มฉบับบค่ะ
ตอบลบงานเขียนชั้นครูจริงๆครับ
ตอบลบเรื่องนี่เราเคยฟังจากวิทยุ สมัยเรายังเด็ก มีผู้หยิงเล่าเป้นตอนๆ วัน30นาที จริงมันยาวมาก เราชอบฟังมากเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว เพิ่งนึกได้เลยลองค้นดู มันยังมีจริงๆ ไม่น่าเชื่อ
ตอบลบเคยดูตอนทำเป็นระครทีวีตอนนั้นยังเด็กมาก ทีวียังเป็นขาวดำอยู่เลย
ตอบลบ